เมื่อวันที่ 16 เม.ย. Kaspa ได้เปิดตัว Rust Alpha ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนา เวอร์ชันใหม่นี้จะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมของ Kaspa อย่างมีนัยสำคัญ พร้อมทั้งวางรากฐานสำหรับการพัฒนาไลบรารีโค้ดที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น

Kaspa คืออะไร?

ด้วยเทคโนโลยี BlockDAG (Directed Acyclic Graph) Kaspa ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นเครือข่าย PoW ที่เร็วที่สุด สถาปัตยกรรมบัญชีแยกประเภทที่เป็นนวัตกรรมนี้เป็นรายแรกของโลกที่รองรับบล็อกแบบขนานและการทำธุรกรรมแบบทันที สิ่งที่ทำให้ Kaspa แตกต่างคือการใช้โปรโตคอล PHANTOM ซึ่งช่วยให้มีอัตราการสร้างบล็อกสูง กำจัดบล็อกที่ถูกละทิ้ง และรักษาสภาพแวดล้อม PoW ที่ปลอดภัย

ข้อมูลตลาดจากเว็บไซต์ CoinEx แสดงให้เห็นว่าโทเค็นดั้งเดิมของ Kaspa อย่าง KAS มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้ โดยราคา KAS แตะระดับ 0.0388 USDT ในวันที่ 3 เมษายน เพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งถึง 205% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้า

ที่มา: ข้อมูลตลาดบนเว็บไซต์ CoinEx

การพุ่งขึ้นอย่างฉับพลันของ Kaspa เป็นเรื่องบังเอิญหรือความจำเป็น? อะไรทำให้ Kaspa โดดเด่น? บทความนี้มุ่งวิเคราะห์ศักยภาพในอนาคตและโอกาสในการพัฒนาของ Kaspa จากสองมุมมอง

การเขียนใหม่ด้วย Rust เพื่อเปิดยุคใหม่

ความสามารถในการขยายตัวเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่โดดเด่นที่สุดของ Kaspa ในเดือนพฤศจิกายน 2021 เครือข่ายหลักของ Kaspa ได้เปิดตัว ซึ่งเขียนด้วย Golang (หรือที่รู้จักกันในชื่อ Go) ต่างจากคริปโตอื่นๆ ที่มีขนาดบล็อกจำกัด KAS มีขนาดบล็อกไม่จำกัด ทำให้ Kaspa สามารถประมวลผลธุรกรรมต่อวินาที (TPS) ได้มากขึ้น ทำให้มีประสิทธิภาพและเร็วขึ้น

ในเดือนกรกฎาคม 2022 นักพัฒนาได้เริ่มเขียน Kaspa ใหม่ด้วย Rust และเวอร์ชัน Rust Alpha ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายนนี้ โมเดลความเป็นเจ้าของและการควบคุมการจัดการหน่วยความจำระดับต่ำของ Rust ทำให้การเขียนโค้ดแบบพร้อมกันและแบบขนานง่ายขึ้น ช่วยให้แพลตฟอร์มสามารถประมวลผลธุรกรรมได้มากขึ้นโดยไม่สูญเสียความเร็ว คาดว่า Rust Alpha จะสามารถประมวลผลได้ถึง 32 บล็อกต่อวินาที (BPS) ซึ่งเร็วกว่าตัวเลขก่อนหน้าที่ 1 BPS ที่ Kaspa เขียนด้วย Go ถึง 32 เท่า นอกจากนี้ การเขียนใหม่ด้วย Rust ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย ความสามารถในการขยายตัว ความน่าเชื่อถือ และการบำรุงรักษาของ Kaspa

ความสามารถในการขยายตัวเป็นความท้าทายที่เครือข่ายหลายแห่งในระบบนิเวศคริปโตต้องเผชิญมาโดยตลอด Kaspa แก้ไขปัญหานี้โดยการเพิ่มจำนวนบล็อกที่สร้างและยืนยันต่อวินาที หลังจากการเขียนใหม่ด้วย Rust Kaspa มีเป้าหมายที่จะบรรลุความเร็วในการประมวลผล 100 BPS (บล็อกต่อวินาที) นั่นหมายความว่า Kaspa จะจัดการกับธุรกรรมจำนวนมากได้ราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในอนาคต ซึ่งน่าดึงดูดสำหรับนักพัฒนา ผู้ใช้ และองค์กรต่างๆ

ม้ามืดของอุตสาหกรรมการขุดคริปโตหลังจาก Ethereum

นับตั้งแต่ Ethereum เปลี่ยนจากฉันทามติ PoW เป็น PoS เมื่อปีที่แล้ว KAS ได้เข้ามาอยู่ในความสนใจของนักขุด GPU และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในโทเค็นที่ทำกำไรได้มากที่สุดสำหรับการขุด GPU Kaspa ใช้อัลกอริทึม KHeavyHash และปรับปรุงความปลอดภัยและความเร็วบนพื้นฐานของโปรโตคอล PHANTOM ซึ่งเป็นการขยายที่ปรับขนาดได้ของ Nakamoto Consensus (ฉันทามติของ Bitcoin) อัตราบล็อกที่ช้าของคริปโตแบบดั้งเดิมนำไปสู่ความแตกต่างที่กว้างในรายได้จากการขุด แต่อัตราบล็อกที่เร็วของ Kaspa ในชั้นฉันทามติช่วยลดช่องว่างนี้ ส่งผลให้เกิดการกระจายอำนาจในการขุด

ด้วยการใช้เทคโนโลยี BlockDAG และการปรับปรุงโปรโตคอลการขุด PoW Kaspa อนุญาตให้บล็อกอ้างอิงบล็อกก่อนหน้าได้หลายบล็อกแทนที่จะเป็นบล็อกหลักเพียงบล็อกเดียว วิธีการนี้เหนือกว่าโมเดลบล็อกเชนเดี่ยวหรือแบบขนาน เนื่องจากไม่มีบล็อกที่สูญเปล่าหรือถูกละทิ้งใน Kaspa บล็อกทั้งหมดถูกเผยแพร่ลงในบัญชีแยกประเภท ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่มีกำลังการขุดที่สูญเปล่า

ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นนวัตกรรม Kaspa ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพการขุดอย่างมีนัยสำคัญและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในหมู่นักขุด ตามข้อมูลจาก MinerStat KAS ครองอันดับหนึ่งในกลุ่มเหรียญที่กำลังมาแรงในฐานะคริปโต PoW ที่ได้รับความนิยมสูงสุด

KAS currently the top spot among the trending coins

ที่มา: MinerStat

Kaspa เป็นผู้บุกเบิกในด้าน BlockDAG ที่กำลังเติบโต โดยมีข้อได้เปรียบที่สำคัญในเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมนี้ ความสามารถในการขยายตัวทำให้เกิด TPS และ BPS ที่สูงขึ้นโดยไม่ต้องลดทอนความปลอดภัย นับตั้งแต่เปิดตัวเครือข่ายหลัก KAS มีการพุ่งขึ้นแม้ในช่วงตลาดขาลง เป็นที่น่าสังเกตว่า KAS ยังไม่เคยประสบกับตลาดขาขึ้นอย่างแท้จริง กล่าวอีกนัยหนึ่ง ราคาอาจเพิ่มขึ้นมากกว่า 50 เท่าในช่วงตลาดขาขึ้นครั้งต่อไป

หลังจากการเปลี่ยนจาก Go เป็น Rust Kaspa จะวางแผนสำหรับการปรับใช้การรวมสมาร์ทคอนแทรกต์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ในอนาคต Kaspa มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นเครือข่ายแบบกระจายศูนย์ที่เร็วที่สุด ปลอดภัยที่สุด และขยายตัวได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์

*บทความนี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุนใดๆ